วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

นิทานสอนใจ นายอำเภอกับสาวใช้ใจเด็ด

นิทานสอนใจ นายอำเภอกับสาวใช้ใจเด็ด

sheriff
พฤติกรรมและการแสดงออกของคนเรานั้นล้วนมีสาเหตุที่มาที่ไปเสมอ ทำไมบางคนขยัน ทำไมบางคนขี้เกียจ ทำไมบางคนขยันอยู่ดี กลับกลายเป็นขี้เกียจไป บางคนจากคนพูดน้อย กลายเป็นคนพูดมาก ฯลฯ พฤติกรรมที่เปลี่ยนไป หรือพฤติกรรมที่คนเราแสดงออกนั้น นักจิตวิทยาตะวันตกล้วนสรุปไปในทางเดียวกันว่า “ทุกพฤติกรรมล้วนมีสาเหตุ”
ดังนั้นถ้าเราเห็นพฤติกรรมของใครที่เปลี่ยนแปลงไปแบบผิดปกติ หรือไม่น่าจะเป็นแบบนั้นไปได้ แสดงว่า คนๆ นั้นจะต้องมีเหตุที่ทำให้เขาเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม คนที่เป็นหัวหน้าคน จะต้องมีความไวต่อสิ่งเหล่านี้ เพื่อที่จะหาทางรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาในกรณีที่พนักงานมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
นิทานวันนี้ผมก็นำมาจากหนังสือเรื่อง สุภาษิตสอนนาย เขียนโดยบูรชัย ศิริมหาสาคร อ่านจบแล้วลองวิเคราะห์ดูนะครับว่าทำไมนายอำเภอถึงมีพฤติกรรมแบบนั้น
นายอำเภอคนหนึ่ง ได้รับคำสั่งด่วนให้ย้ายไปปฏิบัติราชการ ณ ท้องถิ่นอื่น และให้รีบเดินทางทันทีเมื่อทราบคำสั่งย้าย นายอำเภอจึงให้ภรรยาช่วยจองตั๋วเครื่องบินให้ แต่ปรากฏว่าได้ที่นั่งเพียงที่นั่งเดียว ภรรยาของนายอำเภอจึงตัดสินใจขึ้นเครื่องบินเดินทางไปก่อน เพื่อไปเตรียมจัดบ้านพักรอไว้ล่วงหน้า
ฝ่ายนายอำเภอออกเดินทางโดยรถไฟ พร้อมกับสาวใช้ประจำครอบครัวตามลำพัง 2 คน เนื่องจากอำเภอที่จะไปรับตำแหน่งใหม่นั้น อยู่ห่างไกล จึงต้องแวะพักค้างคืนที่โรงแรม 1 คืน
บังเอิญโรงแรมที่แวะพักค้างคืน เหลือห้องว่างเพียงห้องเดียว จึงมีความจำเป็นที่นายอำเภอและสาวใช้จะต้องพักห้องเดียวกัน ทำให้สาวใช้รู้สึกลำบากใจ จึงถามนายอำเภอว่า
“หากมีใครเห็นเข้า แล้วมาถามท่านนายอำเภอว่า เป็นอะไรกับนายอำเภอ จะให้ตอบว่าอย่างไร”
นายอำเภอก็พูดทีเล่นทีจริงว่า “ก็บอกเขาไปว่าเป็นสามีภรรยากัน”
เมื่อได้ยินดังนั้นก็ยิ่งทำให้สาวใช้ไม่สบายใจมากขึ้นไปอีก แต่เมื่อไม่มีห้องว่าง และทุกโรงแรมก็เต็มหมด สาวใช้จึงต้องจำยอม คืนนั้น หลังจากอาบน้ำเสร็จ สาวใช้เตรียมตัวเข้านอน แต่ในห้องพักนั้น มีเตียงเพียงเตียงเดียว จึงไปนอนบนเก้าอี้รับแขกมุมห้อง
นายอำเภอเห็นเข้า จึงสั่งให้มานอนที่เตียงเดียวกัน สาวใช้ไม่กล้าขัดคำสั่ง เพราะนายอำเภอพูดจาขึงขัง จึงยอมปฏิบัติตามแต่โดยดี แล้วทั้งคู่ก็นอนหันหลังให้กัน โดยใช้หมอนข้างกั้นอยู่ตรงกลาง จนกระทั่งรุ่งเช้า
หลายวันต่อมา หลังจากที่นายอำเภอเข้าปฏิบัติงานในอำเภอที่ย้ายมาใหม่แล้ว สาวใช้คนนั้นได้นำเรื่องที่ตนนอนพักค้างคืนกับนายอำเภอไปเล่าให้คนอื่นฟัง จนเรื่องนี้โจษจันไปทั่วที่ว่าการอำเภอว่า
นายอำเภอบ่มิไก๊ ไม่มีน้ำยา นอนเตียงเดียวกับสาวใช้ทั้งคืน แค่หมอนข้างใบเดียวยังปีนข้ามไม่ไหว ซึ่งทำให้นายอำเภอรู้สึกเสียเชิงชาย
เพื่อนสนิทของนายอำเภอ ต่างก็วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่า นายอำเภอคงจะกลัวเมีย ถึงไม่กล้าทำอะไรสาวใช้ บ้างก็ว่า นายอำเภอคงบ่มิไก๊จริงๆ บ้างก็ว่า นายอำเภอก็เป็นคนดีอยู่แล้วแบบนี้ ฯลฯ
คำถามหลังอ่านจบแล้ว ก็คือ ให้ท่านผู้อ่านจงวิเคราะห์พฤติกรรมของนายอำเภอว่า เพราะเหตุใด นายอำเภอจึงไม่ทำอะไรสาวใช้ ทั้ง ๆ ที่มีโอกาสอย่างมากมาย ถ้าคิดแล้วได้คำตอบ ก็ให้เลื่อนลงไปดูเฉลยของนายอำเภอว่าเป็นเพราะอะไร และคำตอบจะตรงกันหรือไม่




คำตอบของนายอำเภอ
เย็นวันหนึ่ง ในขณะที่นายอำเภอนั่งกินเหล้าอย่างสบายใจอยู่นั้น เพื่อนๆ เห็นเป็นโอกาสที่ดี ก็เลยสอบถามเรื่องนี้กับนายอำเภอว่า เป็นเพราะอะไรนายอำเภอถึงไม่กล้าล่วงเกินสาวใช้

นายอำเภอมีแสดงท่าทางหัวเสีย แล้วก็พูดใส่หน้าเพื่อนๆ ในวงเหล้าว่า
“พวกมึงจะให้กูทำได้ยังไง ก็สาวใช้ของกูอายุ 60 กว่าแล้ว” (ฮา)

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
  • อย่าคิดไปเอง คนเราชอบมโนไปเองเวลาที่ได้ยินอะไร หรือได้เห็นอะไรแค่บางส่วน ก็จะคิดต่อไปเองตามพื้นฐานของชีวิตของแต่ละคน ซึ่งอาจจะผิดไปจากข้อเท็จจริงอย่างมากมายก็เป็นได้ ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายกับคนอื่นอย่างมากทีเดียว
  • พฤติกรรมของคน ล้วนมีที่มา เมื่อทราบสาเหตุแล้วเราก็จะทราบว่าทำไมเขาถึงมีพฤติกรรมแบบนั้น ทั้งๆ ที่เขาไม่น่าจะทำแบบนั้น ดังนั้นเมื่อเราเห็นใครที่มีพฤติกรรมแปลกๆ เปลี่ยนไปจากเดิม ก็คงต้องวิเคราะห๋สาเหตุกันให้ชัดเจน อย่าคิดไปเอง

วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

การสร้างตัว เพื่ออนาคต

เมื่อเป็นหนี้...จงขยันหาเงินให้มาก
เมื่อหนี้หมด...จงสร้างความมั่งคั่ง

การเป็นหนี้ควรเป็นหนี้ที่ทำให้เกิดสินทรัพย์
หรือเป็นหนี้เพื่อเป็นเครื่องมือในการหาเงิน

เช่น บ้าน เราเป็นหนี้เพื่อให้มีที่อยู่อาศัย
แต่ต้องไม่เกินตัว สามารถผ่อนได้แบบสบาย ๆ
ในระยะยาว

รถ ไม่ได้ซื้อเพื่อโอ้อวด หรือขับเล่น ๆ
แต่รถนั้นต้องใช้ในการประกอบอาชีพ
พาเราไปสร้างรายได้ มากกว่ารายจ่าย

และควรหยุดสร้างหนี้ในระยะสั้น
เช่น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อ
ไม่มีจ่าย ก็ไม่ควรใช้บัตรสนอง Need ของเรา
เพราะระยะยาวเราจะแก้ไขลำบาก

ดังนั้นทางแก้ไขถ้าไม่อยากเป็นหนี้ระยะสั้น

1.เพิ่มรายได้ หลาย ๆ ช่องทาง
2.ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
3.จดบัญชีรายรับรายจ่ายเพื่อให้รู้รายการใช้จ่าย
4.หาความรู้ในด้านการเงิน
5.มีวินัยในการใช้จ่าย

เป็นหนี้ได้ และไม่ผิด แต่หนี้นั้นต้องคุ้มค่า
และงอกเงยในระยะยาว มากกว่าระยะสั้น
ที่มักจะฆ่าเราให้ตายทั้งเป็น

วชิรพงษ์